Page 7 - E-MAGAZINE_VOL_15
P. 7

โดยแน่นอนว่าการท�าธุรกรรมใดๆหากไม่รู้จักกันมาก่อนอาจจะไม่มั่นใจในการด�าเนินธุรกรรมเหล่านั้นแต่ “Blockchain” จะเข้ามาจัดการ
          ให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างเปิดเผย (Transparent) และเลือกผู้ซื้อผู้ขายที่ตนเองพอใจ ยกตัวอย่างเช่น นาย ก
          ต้องการแลกเงิน โดยมีผู้ประสงค์จะให้แลกอยู่ 10 ราย นาย ก สามารถทราบได้ว่าทั้ง 10 รายนั้นมีก�าลังที่จะให้แลกได้มากน้อยแค่ไหนแตกต่างกัน
          และสามารถที่จะเลือกท�ารายการกับรายใดก็ได้ตามที่นาย ก ต้องการ ซึ่งท�าให้เกิดความสบายใจทั้งผู้ซื้อผู้ขาย โดยผู้ขายเองจะต้องด�าเนินการ
          ให้ดีที่สุดเพื่อท�าให้ธุรกิจไปต่อได้ท�าให้ผู้ซื้อได้ประโยชน์ในส่วนของการแข่งขันระหว่าง 10 รายนั้นไปในตัวและยังตัดพ่อค้าคนกลางที่อาจจะมี
          การเพิ่มก�าไรจากการท�าธุรกรรมเหล่านั้นท�าให้ได้ต้นทุนที่ดีที่สุดไป
                 โดย “Blockchain” เป็นรูปแบบการเก็บข้อมูล (Data structure) แบบหนึ่ง ที่ท�าให้ข้อมูล Digital transaction ของแต่ละคนสามารถ
         แชร์ไปยังทุกๆ คนได้ เป็นเสมือนห่วงโซ่ (Chain) ที่ท�าให้ block ของข้อมูลลิ้งค์ต่อไปยังทุกๆ คนเป็น โดยที่ทราบว่าใครที่เป็นเจ้าของและมีสิทธิ
         ในข้อมูลนั้นจริงๆ เมื่อ Block ของข้อมูลได้ถูกบันทึกไว้ใน “Blockchain” มันจะเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลง เวลาที่มีใครต้องการ
         จะเพิ่มข้อมูล ทุกๆ คนในเครือข่ายซึ่งล้วนแต่มีส�าเนาของ “Blockchain” สามารถรัน Algorithm เพื่อตรวจสอบ Transaction โดย Transaction
         ใหม่นี้จะได้รับอนุญาต ต่อเมื่อในเครือข่ายส่วนใหญ่เห็นด้วยว่ามันถูกต้อง






















                 ยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้ “Blockchain” กับหลายวงการที่น�าเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานแล้วในปัจจุบัน เช่นวงการอสังหาริมทรัพย์
         สามารถประยุกต์ใช้ท�า Smart contract โดยถ้าสัญญาอยู่ใน “Blockchain” ทุกคนจะเห็นข้อมูลตรงกัน ท�าให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบได้ว่าเมื่อไหร่
         สัญญาจะหมดและต้องการผู้เช่าใหม่ ซึ่งแน่นอนเป็นการตัดตัวกลางเช่น นายหน้า ที่ท�าหน้าที่เชื่อมโยงผู้อยากซื้อและอยากขายเข้าด้วยกัน ซึ่งจริงๆ
         แล้วจะคล้ายกับการมีหน้า Website มา Post หาผู้เช่า หรือหาผู้ให้เช่า แต่จัดท�าเป็นระบบและมีการ Automate และใช้งานกันทั้งอุตสาหกรรม
         จึงนับเป็น “Block Chain”
                 ส�าหรับประเทศไทย แม้ว่าเทคโนโลยี “Block chain” จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เริ่มเห็นสัญญาณการตื่นตัวจากหลายๆ บริษัททั้งที่อยู่และ
         ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมทางเงิน ต่างให้ความส�าคัญและเข้าไปสนับสนุนทางการเงิน หรือพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ร่วมกับบริษัท Start-up มากขึ้น
         นอกจากนี้ หน่วยงานก�ากับดูแลอุตสาหกรรมทางการเงิน อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส�านักงานคณะกรรมการก�ากับหลักทรัพย์และ
         ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ส�านักงานคณะกรรมการก�ากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็เริ่มตื่นตัว ในการออกกฎระเบียบ
         หรือเกณฑ์การควบคุม คุ้มครองผู้บริโภคและผู้ลงทุนเช่นกัน


                 ในการนี้ทางบริษัทก็ได้ให้ความส�าคัญ     เป็น Game Changer ของอุตสาหกรรม
          กับเรื่องดังกล่าว และมองเห็นว่า “BlockChain”  ทางการเงิน ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ใช้งานจะ
          จะเกิดขึ้นได้จะต้องประกอบไปด้วยการเชื่อมต่อ  ต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ดี
          ผู้ซื้อผู้ขายเข้าด้วยกันซึ่งแน่นอนว่าโครงข่าย  การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ล้วนส่งผลดีต่อ
          ใยแก้วน�าแสงที่จะเชื่อมต่อระหว่างที่ต่างๆ  ผู้บริโภคในที่สุด เพราะได้รับบริการที่รวดเร็ว
          เข้าด้วยกันจะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างยิ่งคง  สะดวกสบาย และค่าใช้จ่ายในการท�าธุรกรรม
          ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเมื่อใดเทคโนโลยีดัง  ที่ถูกลง
          กล่าวจะเข้ามาแต่บริษัทฯ มองว่าไม่เร็วก็ช้า
          จะเริ่มเห็นเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามา



                                                                                                      I-TEL |  4
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12