เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไปอ่านนโยบายการใช้งาน
ITEL ผลงานสวย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 กวาดรายได้รวม 460.65 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.91 ล้านบาท “ณัฐนัย อนันตรัมพร” เอ็มดีหนุ่มไฟแรง รับลูกค้ากระทบพิษโควิดในบางอุตสาหกรรม แต่ ITEL ยังสามารถให้บริการลูกค้า ได้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุด อีกทั้งได้มีการปรับกลยุทธ์ชูทิศทางการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับ New Normal พร้อมเดินหน้าลุยงานต่อเนื่องมองครึ่งปีหลังจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รับอานิสงส์จากงานภาครัฐและเอกชน นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจทุกธุรกิจฟอร์มดีต่อเนื่องในปี 2563 สนับสนุนรายได้ปีนี้ที่ 2,400 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังบริษัทฯ มีงานเพิ่มขึ้น และมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี โดยสัดส่วนรายได้มาจากงานบริการโครงข่าย และงานให้บริการเช่าพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ เท่ากับ 60% และอีก 35% เป็นงานให้บริการติดตั้งโครงข่าย ควบคู่การให้ความสำคัญเรื่องกำไรสุทธิ โดยผลประกอบการไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้รวม 460 .65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 453.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.59 และมีกำไรสุทธิ 40.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.01 ในไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้จากงานบริการโครงข่ายซึ่งถือเป็นรายได้หลักอยู่ที่ 267.45 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.06 ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 1/2562 ที่มีรายได้ 204.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เป็นผลจากการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) ที่เริ่มเปิดให้บริการในไตรมาสนี้เป็นครั้งแรกและ จากการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งมีโครงข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งมีการเพิ่มเส้นทางเชื่อมต่อไปยังลูกค้า ในขณะเดียวกันโครงข่ายของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจด้วยคุณภาพของการให้บริการ จึงทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง รองลงมาเป็นรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายอยู่ที่ 164.94 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.80 ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 1/2562 ที่มีรายได้ 222.12 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ มีรายได้จำนวน 23.29 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.06 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 4.02 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันอัตราการเข้าใช้งานดาต้า เซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 95% นายณัฐนัย กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังได้งานบริการระบบเครือข่ายเสมือนและระบบแจ้งเตือนข้อความสั้น (SMS) เพื่อรองรับระบบสารสนเทศสำหรับผู้ใช้น้ำ ของการประปาส่วนภูมิภาค มูลค่าโครงการรวม 17.12 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ทำให้บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ตุนไว้ประมาณ 4,079.74 ล้านบาท แบ่งเป็นงานให้บริการโครงข่ายมูลค่า 3,260.92 ล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่ายมูลค่า 770.71 ล้านบาท และดาต้า เซ็นเตอร์ มูลค่า 48.11 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่นๆ ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่าแผนดังกล่าวจะสามารถดำเนินไปตามนโยบายที่วางไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นการเพิ่มโอกาสของบริษัทฯในการเสนองานเพิ่มมากขึ้น สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้งานภาครัฐและเอกชนชะลอหรือขยับออกไปบ้าง แต่บริษัทฯยังคงรักษาระดับกำไร ไม่ให้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ภายในไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ คาดว่า จะมีโอกาสได้งานประมูลการให้บริการติดตั้งโครงข่ายและงานจ้างเหมา มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท หากสามารถดำเนินการได้ตามแผนจะส่งผลให้บริษัทมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามนับต่อจากนี้ ITEL จะเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเต็มที่ พร้อมยังคงดำเนินมาตรการควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิผลให้สอดคล้องไปกับแผนกลยุทธ์หลักทางธุรกิจ สู่เป้าหมายการเป็นธุรกิจที่ก้าวหน้าและเติบโต ต่อเนื่อง ยั่งยืน เพราะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มดีขึ้นอาจส่งผลทำให้สภาพธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง (New Normal) บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาการดำเนินงาน ปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและมีอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าแนวโน้มรายได้ในปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าแน่นอน