เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไปอ่านนโยบายการใช้งาน
ITEL มาแรงตามนัด ล่าสุดคว้างานโครงการของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลค่า 552,694,725.00 ล้านบาท เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ โดย แอนตี้โดรน (Anti-Drone) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามามีอิทธิพลต่อรูปแบบการทำธุรกิจ ถือเป็นโซลูชันใหม่ที่หนุนให้ผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตมากยิ่งขึ้น “ณัฐนัย อนันตรัมพร” ลั่น ก้าวแรกของแผนกลยุทธ์ New S-Curve ด้าน Big Data และ Security ไปได้สวย จากนี้จะเดินหน้าผลักดันธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ส่งสัญญาณผลงานทั้งปีไม่ทำให้ผิดหวัง นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับคัดเลือกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามโครงการจัดหารถยนต์ปฏิบัติการพร้อมติดตั้งระบบตรวจจับอากาศยานไร้คนขับ แบบ 1 เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์รบกวนสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ พร้อมอุปกรณ์รบกวนสัญญาณไร้คนขับแบบพกพา (Drone Gun) จำนวน 11 คัน มูลค่างานทั้งสิ้น 552,694,725.00 บาท (ห้าร้อยห้าสิบสองล้านหกแสนเก้าหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยยี่สิบห้าบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยมีกำหนดการส่งมอบ และติดตั้ง ภายใน 270 วัน (สองร้อยเจ็ดสิบวัน) นับถัดจากวันลงนามในสัญญา โดยคาดว่าจะได้มีการลงนามสัญญาจ้างในเดือนมิถุนายน 2564 “จากการที่บริษัทฯ ได้รับงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในศักยภาพของบริษัทฯ ในการนำเทคโนโลยีโดรนให้เข้ามามีบทบาทสำคัญทางด้านความมั่นคงของประเทศ เป็นโซลูชันที่จำเป็นในอนาคต โดยโซลูชันโดรนของบริษัทฯ มีคุณสมบัติที่โดดเด่น พร้อมรถยนต์ปฏิบัติการฯ เพื่อใช้ป้องกันการบุกรุกของอากาศยานไร้คนขับ เสริมสร้างความปลอดภัย ป้องกันการบุกรุกทางอากาศ สามารถทำงานแทนมนุษย์ในหลากหลายด้าน ทั้งการสำรวจพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก การตรวจสอบ วิเคราะห์ ประมวลผล อีกทั้งประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ และมีศักยภาพเติบโตสูง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของบริษัทฯ หลังปรับแผนสู่กลยุทธ์ New S-Curve มุ่งเน้นงาน Big Data และ Security ในการสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียม เสนองานโครงการอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป ทั้งในโครงการของลูกค้าหลักปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นยิ่งขึ้น คาดว่าแนวโน้มที่ดีนี้จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมา ” นายณัฐนัย กล่าว ํํํ