News & Activities

ข่าวประชาสัมพันธ์

10 พ.ย. 2020

ITEL อวดผลงาน Q3/63 กวาดรายได้ 9 เดือนทะลุ 1,400 ลบ. โกยกำไรเฉียด 150 ลบ. เร่งเครื่องเสนองานเพิ่มแบ็กล็อก พร้อมปรับทัพเสริมความแข็งแกร่งรองรับการเติบโตปี 2564

ITEL อวดผลงานโดดเด่น ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 มีกำไร 49.96 ลบ. ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 475.78 ลบ. ลุยไตรมาสสุดท้ายเร่งเครื่องนำเสนองานทั้งงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ากว่าพันล้านบาท อวดแบ็กล็อกแน่น 4,136 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป มั่นใจผลประกอบการปี 2563 ออกมาดีแน่นอน นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ประกาศทุกกลุ่มธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่อง เชื่อทั้งปีมีสตอรี่เด่นให้ติดตามตลอด ทั้งงานบริการโครงข่าย ติดตั้งโครงข่าย และให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ยิ้มรับผลงาน 9 เดือนปีนี้ รายได้จากงานให้บริการโครงข่ายพุ่งกระฉูดกว่า 33% สนับสนุนรายได้ให้บริการโครงข่ายเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังบริษัทมีงานเพิ่มขึ้น และมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี โดยจากผลประกอบการไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 475.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 49.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ผนวกกับบริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น และมีลูกค้าใหม่เพิ่มด้วยประสิทธิภาพของโครงข่ายและความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของการให้บริการ ทำให้บริษัทสามารถคว้างานให้บริการธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศมาได้ โดยในไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายอยู่ที่ 284.49 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 3/2562 ที่มีรายได้ 214.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33% ส่วนรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายอยู่ที่ 164.89 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35 ของรายได้รวม โดยงวดนี้บริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการที่สำคัญจากการติดตั้งโครงการงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งเคเบิล ใยแก้วนำแสง ระยะทาง 3,140 กิโลเมตรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งบริษัทได้รับงานต่อเนื่องในปีนี้ที่งานจ้างเหมา ออกแบบ จัดหา และติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง ระยะทาง 3,600 กิโลเมตร มูลค่าโครงการกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มงานในไตรมาส 4 ปี 2563 และโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ มีรายได้จำนวน 22.37 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของรายได้รวม ปัจจุบันอัตราการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์อยู่ที่ 95% นายณัฐนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมอย่างมั่นใจว่า รายได้ของ ITEL ในปีนี้สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายแน่นอน โดยปัจจุบันมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 รวมประมาณ 4,136 ล้านบาท โดยโครงการปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อาทิเช่น งานโครงการอินเทอร์เน็ตพื้นที่ชายขอบ (USO Phase 1) และโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) โครงการจัดหาบริการคู่สายวงจรเช่า (Link) สำหรับธนาคารกรุงไทย โครงการจ้างเหมาออกแบบ และติดตั้งเคเบิลใยแก้ว นำแสง ระยะทาง 3,600 กิโลเมตร ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดๆ ไป นอกจากนี้ยังเตรียมเสนองานโครงการใหม่กว่าพันล้านบาท ทั้งงานให้บริการโครงข่าย และงานติดตั้งโครงข่าย โดยมุ่งเน้นงานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน หลังจากองค์กรต่างๆ มีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล จึงเป็นโอกาสที่ดีของ ITEL ในการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าไปนำเสนองานแก่หน่วยงานต่างๆ พร้อมกันนี้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน และความคล่องตัวในการบริหารงานให้สอดคล้องกับการขยายการเติบโตของบริษัท โดยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2563 ได้เลื่อนตำแหน่งของนายณัฐนัย อนันตรัมพร ขึ้นดำรงตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ของบริษัท ซึ่งการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเท่านั้น อีกทั้งได้เสริมทัพผู้บริหารระดับสูง ที่มีความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีตลอดจนมีความเข้าใจในพฤติกรมและความต้องการของลูกค้า มาร่วมขับเคลื่อนองค์กร โดยได้แต่งตั้ง ดร.บัณฑิต รุ่งเจริญพร ดำรงตำแหน่ง "กรรมการผู้จัดการ" เพื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันรองรับการเติบโตในปี 2564 สำหรับแนวโน้มโค้งสุดท้ายของปี 2563 นั้น บริษัทประเมินว่าการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตามบริษัทก็จะกระจายความเสี่ยงในการหาฐานลูกค้าที่หลากหลาย ไม่พึ่งพิงกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และโรคระบาด COVID-19 ตลอดจนศึกษาถึงเทคโนโลยี และแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายธุรกิจในอนาคตต่อไป

Share