เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไปอ่านนโยบายการใช้งาน
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดแผนธุรกิจปี 64 วางเป้าหมายสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่านแผนธุรกิจรับชีวิตวิถีใหม่ หวังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น ตั้งเป้ารายได้โต 20% หรือที่ 2,800 ล้านบาท หลังตุนงานในมือ (Backlog) กว่า 3,800 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเสนองานแก่ภาครัฐและเอกชน ขานรับผลดีจากการเร่งแผนลงทุนเพื่อพัฒนาระบบรองรับ Internet of Things และ Big Data ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหนุนภาคธุรกิจ ปี 2564 - 2565 เตรียมเดินแผนขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโซลูชันใหม่ เพื่อนำเทคโนโลยีมายกระดับทุกกลุ่มธุรกิจให้ใช้งานโครงข่ายได้อย่างมีเสถียรภาพ มุ่งขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 20% หรือที่ 2,800 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,058.89 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 183.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.51% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 181.00 ล้านบาท โดยมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย การให้บริการโครงข่ายหรือดาต้า เซอร์วิส เติบโตต่อปี 20-30% ตั้งเป้าหมายรายได้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-70% ของรายได้รวม การให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม สัดส่วน 20-30% ของรายได้รวม และ บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีอยู่ 2 แห่ง แห่งแรกให้บริการครบ 100% ส่วนแห่งที่ 2 คาดภายในสิ้นปี 2564 จะมีผู้ใช้บริการ 50-60% คาดการณ์ภาพรวมตลาดโทรคมนาคมในปี 2564 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มองเทรนด์การลงทุนเกี่ยวกับการสื่อสารในยุคดิจิทัลยังมาแรง ส่งผลบวกต่อ ITEL หนุนรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่งในอนาคตมากยิ่งขึ้น สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ธุรกิจ Data Service ของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดีจากความครอบคลุมของโครงข่ายถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น สร้างความพึงพอใจและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ สามารถพิสูจน์ตนเองจนสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้ ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นรายได้จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณการใช้งานของลูกค้าเช่าวงจร รวมถึงมีจุดแข็งในประสิทธิภาพและเสถียรภาพของโครงข่ายที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพันธมิตร มีบริการที่หลากหลายทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการบริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยปี 2564 บริษัทฯ ประเมินว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานยังมีสัญญาณที่ดี เพราะยังมีงานที่รอรับรู้รายได้อีกหลายโครงการ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2564 เพื่อช่วยหนุนผลงานของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคง นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า ในปี 2564 บริษัทฯ จะสร้างผลงานนิวไฮ พร้อมรุกตลาดเต็มรูปแบบทั้งภาครัฐและเอกชน โดยนับจากนี้จะเห็นแผนกลยุทธ์ของอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม แบบ ‘Growth Strategy’ เพื่อเดินหน้าสู่ยุค New Normal พร้อมรุก New S-Curve ที่เป็นการให้บริการด้าน Internet of Things และ Big Data การสร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าคู่แข่งขันด้วยการให้บริการผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงทั้งเส้นทาง (End to End Fiber Optic) การวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าบนโลกดิจิทัลอยู่เสมอเพื่อให้บริการตามความต้องการของผู้ใช้บริการ (Customization) และ การสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจด้วยการดูแลหลังการขายโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ 100% ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้ อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2563 เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า จากนี้ไปอีก 3 ปี จะเป็นก้าวที่ดีของ ITEL ด้วยมูลค่างานในมือที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง และจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาตามความสำเร็จของงาน โดยจะเห็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 1/64 นี้ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และแผนการเข้าเสนองานใหม่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมให้ความเชื่อมั่น ITEL ดูแลงานโครงการขนาดใหญ่มาแล้วจำนวนมาก ช่วยหนุนให้รายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน