Articles

การมาของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศที่สามารถรองรับการเติบโตของดิจิทัลอีโคโนมี (Digital Economy) ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนและธุรกิจหันมาใช้งานดิจิทัลและระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

การเปลี่ยนผ่านจากอดีตสู่ยุค Cloud 
ในอดีต ประเทศไทยเน้นการจัดเก็บข้อมูลในพื้นที่ของตนเอง แต่ปัจจุบัน การรวมกลุ่มเพื่อใช้งานระบบ Cloud และการจ่ายเงินตามการใช้งานจริง (Pay-per-Use) ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในด้านความคุ้มค่าและประสิทธิภาพ ระบบ Cloud  ช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย ทำให้ผู้ให้บริการสามารถเสนอราคาที่ถูกลงและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น การเปลี่ยนแปลงของซอฟต์แวร์โปรแกรม ที่ปัจจุบันนี้ยกเลิกการขายโปรแกรมบนแผ่นซีดี และหันมาให้บริการในรูปแบบ Subscription จ่ายเงินรายเดือน หรือ รายปีแทน

ดาต้า เซ็นเตอร์และการเชื่อมต่อ สำคัญกับระบบ Cloud อย่างไร
Cloud กำลังเติบโตมากขึ้น เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้แล้ว มีแนวโน้มว่าผู้ใช้งานจะซื้อพื้นที่เพิ่มมากกว่าการย้ายข้อมูลไปเก็บที่อื่น ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ เลือกจะมาที่ประเทศไทย เพราะเล็งเห็นตลาดที่สามารถทำธุรกิจได้ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ที่จะช่วยเปิดตลาด Cloud ให้กว้างยิ่งขึ้น 
ดาต้า เซ็นเตอร์ถือเป็นส่วนสำคัญของระบบ Cloud เปรียบเสมือนสถานที่ที่รองรับอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับให้บริการแก่ลูกค้า และการทำให้ดาต้า เซ็นเตอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีระบบเชื่อมต่อที่ดี ยิ่งข้อมูลบน Cloud เพิ่มขึ้น ความต้องการบริการเชื่อมต่อก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย — นี่คือจุดที่ ITEL มีบทบาทสำคัญ

บทบาทของ ITEL 
    ธุรกิจหลักของ ITEL คือธุรกิจด้านการเชื่อมต่อ (Connectivity) เมื่อมีระบบ Cloud  มีดาต้า เซ็นเตอร์ ก็ต้องมีการเชื่อมต่อเพื่อรับส่งข้อมูล ดีมานด์กับ ซัพพลายจะเจอกันได้จะต้องผ่านตัวกลาง โดยคุณณัฐนัย ให้คำนิยามว่า Cloud Implementer หรือ ผู้ดำเนินการ Cloud ยกตัวอย่าง หากต้องการย้ายข้อมูลขึ้น Cloud จะต้องมีขั้นตอนการดำเนินงาน การตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเจ้าของ Cloud ยิ่งการดึงข้อมูลมากขึ้น การเชื่อมต่อก็จะยิ่งมากขึ้นแบบทวีคูณ จากเจ้าหนึ่ง ไปอีกเจ้าหนึ่ง เป็นการเชื่อมต่อแบบใยแมงมุม
    ITEL เป็นธุรกิจขนาดกลาง ที่ดำเนินธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) มีจุดแข็งตรงความ Flexible ยืดหยุ่น สามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านใคร เส้นทางไม่ทับซ้อนกับเจ้าอื่น อีกทั้งยังมีความคล่องตัวในการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรวดเร็วได้ นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรเป็นของตัวเองจากการลงทุนระยะยาว โดยมีทั้งเส้นทางหลักที่เชื่อมโยงไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และมีเส้นทางสำรองไปยังแต่ละสถานที่ สามารถเพิ่มส่วนต่อขยายไปได้อีก เพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของ Hyperscaler เจ้านั้นๆ 

การเติบโตของดิจิทัลอีโคโนมีและการใช้งานระบบ Cloud ในประเทศไทย ทำให้ดาต้า เซ็นเตอร์และบริการเชื่อมต่อข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ITEL รับบทเป็นผู้ให้บริการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น รองรับความต้องการของ Hyperscaler ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและบริการแบบ B2B ช่วยสร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์การเติบโตของตลาดดิจิทัลในภูมิภาค