บทความ

เกษตรกรรมมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตของสังคมไทย นับว่าเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลิตสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไปสู่เวทีโลกได้ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นอู่ข้าว อู่น้ำของโลกซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายหลายด้าน รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดย “กรมส่งเสริมสหกรณ์”

ประเทศไทยขึ้นชื่อว่ามีผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ส่งผลให้ “เกษตรกรรม” เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยเทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นตัวขับเคลื่อนสร้างผลผลิตชั้นเยี่ยมที่จะส่งถึงมือลูกค้าภายใต้การกำกับดูแลของคุณสัญชัย รัศมีจีรวิไล ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้บริหารมากฝีมือและประสบการณ์ของวงการไอที นอกจากวิสัยทัศน์ในการทำงานที่เห็นเชิงประจักษ์ ยังมีแนวคิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผ่านโครงการใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเกื้อกูลให้เกษตรกรไทยได้รับผลประโยชน์อย่างยั่งยืน

ภารกิจหลักของกลุ่มพัฒนาระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์คือวางระบบเครือข่ายในการรับ-ส่งข้อมูล ระหว่างหน่วยงานทั้งหมด 147 หน่วยงานทั่วประเทศและบริหารจัดการดูแลโครงข่ายทั้งหมด ประกอบไปด้วยหลายภาคส่วนอาทิ อินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชันระบบโทรศัพท์ ระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็วจึงต้องอาศัยโครงข่ายที่มีเสถียรภาพสูงเพื่อให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มความสามารถ

เพื่อการแก้ปัญหาที่ฉับไว ต้องมั่นใจใน “ผู้เชี่ยวชาญ”
ผอ.สัญชัยเล่าให้ฟังว่า หากเกิดปัญหาขึ้นในส่วนของระบบต่างๆ เพื่อการจัดการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วและดีที่สุด ทางกลุ่มพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสารฯ จึงเลือกให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่มีความรู้และมากด้วยประสบการณ์ เป็นผู้แก้ปัญหาเป็นหลัก ทั้งนี้ทางหน่วยงานก็มีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ และให้เรียนรู้การแก้ปัญหาต่างๆ ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบภายนอกเพื่อให้สามารถใช้งานเครือข่ายพร้อมกันได้อย่างไม่ติดขัด เสถียร ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลระบบให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุดและทันเวลา

ไทยแลนด์ 4.0 กับการทำงาน
“กรมส่งเสริมสหกรณ์” เป็นหน่วยงานราชการที่ทำงานรับใช้ประชาชน จึงต้องตั้งรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดขึ้นคือ “ไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานเอกชน ก็ต้องปรับตัวเพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องมีพื้นฐานที่ดีในการติดตั้งโครงข่ายทั่วประเทศ ที่มีความเสถียร มีคุณภาพที่ดีหากโครงข่ายไม่ได้มาตรฐาน การทำงานก็จะยากขึ้นและทำให้ก้าวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้ยาก นอกจากนี้ ชาวบ้านที่อยู่บนพื้นที่ห่างไกล รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ชาวบ้านเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างแท้จริง

ความก้าวหน้า เริ่มต้นที่การ “พัฒนา” ตนเอง
ในฐานะที่ ผอ.สัญชัย เป็นคนทำงานในแวดวง IT จึงได้ฝากถึงคนในหมู่ IT ว่าให้คำนึงถึงคำกล่าวว่า “Disruption” ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีก็มีให้เราเห็น ในรูปแบบของธุรกิจใหม่ที่เพิ่มมูลค่าสินค้าและสร้างรายได้ในระยะยาวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับทุกองค์กร ผมมองว่า Disruptionมีความสำคัญในการทำธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ ตอบได้เลยว่ามีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะคอยช่วยให้ภาคราชการขับเคลื่อนไปได้ไกลขึ้นกว่าเดิมดังนั้น หน่วยงานจะก้าวหน้าได้ ตัวบุคลากรก็ต้องพัฒนาตนเอง ควรเรียนรู้ให้กลายมาเป็นโอกาสที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ เพราะผมเองมองว่า IOT หรือ Big Data จะมีประโยชน์ต่อเกษตรกรรมไทยในอนาคต อีกทั้งยังสามารถช่วยให้คนทำงานแวดวง IT ทำงานได้รวดเร็วขึ้น สามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ทันทีเพราะถ้าหากเราสามารถพลิกวิกฤติจาก “Disruption” ให้กลายมาเป็นโอกาส ก็เท่ากับว่าเรามีการพัฒนาและปรับตัวอย่างรวดเร็วเหนือกว่าคนอื่นๆ

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงโดยใช้โครงข่าย Interlink Fiber Optic ให้กับ “กลุ่มพัฒนาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร สังกัดกรมส่งเสริมสหกรณ์” โดยได้รับความไว้วางใจในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นพื้นฐานสำหรับการรับ-ส่งข้อมูลสามารถช่วยดูแลระบบเครือข่ายของลูกค้าแบบครบวงจรช่วยบริหารจัดการระบบ ตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง และการวางระบบ รวมถึงดูแลรักษาโครงข่ายสื่อสารภายในองค์กรของลูกค้า